หลายคนอาจสงสัยว่าในกรณีที่เราข ับรถยนต์ลุยน้ำท่วมแล้วรถเสียนั ้นประกันจะให้ความคุ้มครองหรือไ ม่ หากท่านทำประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1 ก็ต้องบอกว่าคุ้มครอง แต่ในความคุ้มครองนั้นก็ยังมีเง ื่อนไข ประกันภัยอาจปฏิเสธในกรณีถ้ารถเ สียจากการขับรถไปลุยน้ำท่วม แต่จะรับผิดในกรณีที่รถจอดอยู่ก ับที่และไม่ติดเครื่อง เช่น จอดอยู่ในบ้านและหนีน้ำไม่ทัน
ต้องยอมรับเลยว่าทุกครั้งที่ฝนต กหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง หลายพื้นที่ในกทม.ต้องเจอกับน้ำ ท่วมขังเสมอ จนบางครั้งก็ทำให้รถยนต์ขนาดเล็ กขับขี่สัญจรด้วยความยากลำบาก ต้องเพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้ น เพราะรถอาจดับกลางอากาศหรือเกิด ความเสียหายได้
กรณีที่น่าจะเข้ากับสถานการณ์ช่ วงนี้น่าจะเป็นกรณีแรก คือ ขับรถไปลุยน้ำท่วม น้ำเข้าเครื่องยนต์เครื่องดับ การแก้ไขทำได้ยากหรือบางเคสต้อง เปลี่ยนเครื่องใหม่ ความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจสูงถึ งหลักแสน การที่คุณขับลุยไปฝ่าไป ทั้งที่รู้ว่าน้ำท่วมขังสูง ประกันภัยอาจใช้เป็นเงื่อนไขในก ารปฏิเสธความรับผิดชอบ เพราะถือว่าเจตนานำรถไปให้เกิดค วามเสียหาย ดังนั้น สิ่งสำคัญอยู่ที่การแจ้งเคลมกับ พนักงานเคลมว่าลักษณะการเกิดเหต ุเป็นเช่นไร เพราะใช่ว่าทุกครั้งที่ขับรถไปแ ล้วจะเจอน้ำท่วม คุณอาจไม่ทราบว่าข้างหน้ามีน้ำท ่วมถนนสูงมากจนขับรถผ่านไม่ได้ จึงควรแจ้งเคลมโดยบอกว่าเป็นเหต ุสุดวิสัย ไม่ใช่การเจตนาหรือจงใจ ส่วนทางประกันจะหาหลักฐานหรือโต ้แย้งอย่างไรก็ค่อยว่ากันไป
เนื่องจากบริษัทประกันภัยแต่ละแ ห่งมีรายละเอียดแตกต่างกัน ควรศึกษาข้อมูลบริษัทประกันภัยแ ละเงื่อนไขของประกันภัยที่คุณได ้ทำไว้ด้วย อย่างไรก็ตาม เพื่อความอุ่นใจในการขับขี่รถยน ต์ พยายามติดตามข่าวสารสภาพการจราจ ร และหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีน้ำท่ วมขังจะดีกว่า
ต้องยอมรับเลยว่าทุกครั้งที่ฝนต
กรณีที่น่าจะเข้ากับสถานการณ์ช่
เนื่องจากบริษัทประกันภัยแต่ละแ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น